สินเชื่อเคหะกตัญญูดูแลบุพการีธนาคารออมสิน เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร อายุครบ 20 ปีขึ้นไป เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี ยกเว้น เจ้าของกิจการที่สามารถพิสูจน์รายได้ที่แน่นอน เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี และเป็นผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยร่วมกับบิดาและหรือมารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ท้ายที่สุดคือมีอาชีพและรายได้แน่นอน
ลูกกตัญญูที่อยากสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ด้วยการขยับขยายที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับชีวิตความเป็นอยู่ของ ผู้สูงอายุ เมื่อสถาบันการเงินทั้งธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ออกสองรูปแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงินกู้จัดเต็ม เพื่อให้บรรดาลูกๆ ได้ซื้อบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ได้ง่ายขึ้น
วัตถุประสงค์ในการกู้
1. เพื่อซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือห้องชุด (คอนโด)
2. เพื่อซื้อที่ดิน และปลูกสร้างอาคาร (บ้านและทาวน์โฮม) ในที่ดินนั้น
3. เพื่อซื้อที่ดินที่มีอาคาร (บ้านและทาวน์โฮม) ของผู้กู้ หรือคู่สมรสปลูกสร้างอยู่แล้ว
4. เพื่อปลูกสร้างอาคารในที่ดิน ซึ่งเป็นของผู้กู้หรือคู่สมรส
5. เพื่อต่อเติมซ่อมแซมบ้าน ทาวน์โฮมในที่ดิน ซึ่งเป็นของผู้กู้หรือคู่สมรส
6. เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดิน บ้าน ทาวน์โฮม หรือห้องชุดของผู้กู้หรือคู่สมรส
คุณสมบัติผู้กู้
– เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร
– มีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี ยกเว้น เจ้าของกิจการที่สามารถพิสูจน์รายได้ที่แน่นอน – – เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี และเป็นผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยร่วมกับบิดาและหรือมารดา ปู่ ย่า ตา ยาย
– มีอาชีพและรายได้แน่นอน
– เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบิดาและหรือมารดาของตนเองหรือคู่สมรส ปู่ ย่า ตา ยาย ของตนเอง โดยพิจารณาดังนี้ อาศัยอยู่ร่วมกันกับบิดาและหรือมารดา ปู่ ย่า ตา ยาย โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือมีหลักฐานการหักลดหย่อยภาษีค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดาและหรือมารดาจากกรมสรรพากรไม่น้อยกว่า 1 ปีภาษี
วงเงินที่ให้กู้
ธนาคารให้กู้ได้ทุกกรณี โดยรวมกันไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์
1. กรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย
สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 1
(1) กรณีหลักประกันมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- ที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 95 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
- ห้องชุด ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
(2) สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 2
(1) กรณีหลักประกันมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- ที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด กรณีผ่อนชำระสัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 1 ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
- ที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด กรณีผ่อนชำระสัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 1 น้อยกว่า 2 ปี ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
(2) สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 3
ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
2. กรณีกู้เพิ่มเติม
1. กู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ รวมทั้งเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ให้กู้ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมจำนวนเงินให้กู้ทั้งหมด ต้องไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
2. กู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ให้กู้ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่เมื่อรวมจำนวนเงินให้กู้ทั้งหมด ต้องไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
3. กรณีกู้เพื่อปลูกสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซมอาคาร
ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินของอาคารที่ปลูกสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซม แต่ต้องไม่เกินอัตราส่วนตามที่กำหนดไว้ตามข้อ 1. แล้วแต่กรณี